อาการเวียนศีรษะ
หลังจากไม่ได้เข้ามาโพสบล็อกอยู่นาน วันนี้ไปโรงพยาบาลสินแพทย์ ได้ข้อมูลที่คิดว่าเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆคน เริ่มจากอาการที่พบกันมากในสังคมปัจจุบัน นั่นคือเรื่องการเวียนศีรษะ อาการเวียนศีรษะเป็นอาการที่เราพบกํนได้บ่อย โดยสาเหตุจะเกิดจาก โรคของอวัยวะในการทรงตัวในหูชั้นใน ความผิดปกติของเส้นประสาท การทรงตัว หรือ สมอง เป็นต้น ในการรักษาโรคควรรักษาตามสาเหตุของโรคสาเหตุของการเวียนศีรษะ
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่มีการสูญเสียการทำงานของอวัยวะการทรงตัว, เส้นประสาทการทรงตัว หรือสมองที่เกี่ยวข้อง หากมีอาการควรปรึกษาแพทย์ โดยปกติแล้วแพทย์จะทำการทดสอบการทรงตัว ที่เรียกว่า Electronystagmography หาการทำงานของระบบการทรงตัวบกพร่องหรือทำงานน้อยกว่าปกติ หรือไม่ทำงานเลย ผู้ป่วยจะมีอาการวิงเวียนศีรษะบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาที่เกิดการเคลื่อนไหวของศีรษะ หรือการเคลื่อนไหวของสายตา ซึ่งอาจมีอาการเวียนศีรษะแบบหมุน , เสียการทรงตัว หรือมีอาการโคลงเคลงไปมาการบำบัดด้วยการฝึกกายบริหาร
การฝึกกายบริหาร เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ในการบำบัดรักษอาการเวียนศรีษะ โดยจะทำให้ร่างกายมีการทรงตัวดีขึ้นตามลำดับ โดยผู้ป่วยจะต้องฝึกกายบริหารในสถานที่กว้างและปลอดภัย ไม่ควรมีสิ่งของวางอยู่ในบริเวณที่ฝึกเพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการสะดุดหกล้ม โดยเฉพาะช่วงฝึกท่าใหม่ๆ ควรมีบุคคลอื่น คอยช่วยเหลือ ดูแลเราอยู่ใกล้ๆวิธีฝึกกายบริหารเพื่อบำบัดอาการเวียนศีรษะ
การฝึกในระยะแรกให้เริ่มฝึกเพียง 2-3 ครั้งต่อวัน แล้วค่อยฝึกทำเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดย ในช่วงแรกๆของการฝึก บางคนอาจมีอาการเวียนศีรษะเกิดขึ้นบ้าง ไม่ต้องวิตกกังวลมาก ให้อดทนฝึกต่อไปเรื่อยๆ อาการเวียนศีรษะจะลดลง ในขณะเดียวกัน การทรงตัวของร่างกายก็จะดีขึ้นตามลำดับเรามาเริ่มฝึกกันที่การบริหารศีรษะท่าฝึกชุดที่ 1 - การบริหารศีรษะ
ท่าที่ 1.1 : เริ่มจาก หันศีรษะจากซ้ายไปขวา สลับไปมา โดยทำติดต่อกันอย่างน้อย 5-10 ครั้ง ให้เริ่มทำจากช้าๆ แล้วค่อยๆ เร็วขึ้นตามลำดับ ตามรูปท่าที่ 1.2 : เริ่มจากการก้มศีรษะไปด้านหน้า แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นจนตั้งตรง จากนั้นให้ค่อยๆแหงนต่อไปด้านหลัง โดยทำติดต่อกัน 5-10 ครั้ง จำไว้ว่าในทุกขั้นตอนให้เริ่มต้นทำอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นตามลำดับ
ท่าฝึกชุดที่ 2 - การบริหารศีรษะและสายตาด้วยการมองภาพ
ท่าที่ 2.2 : ต่อจากท่าที่ 2.1 ในขณะที่ผู้ฝึกมองภาพหรือวัตถุ ให้ผู้ป่วยหันศีรษะจากด้านซ้ายไปด้านขวา แล้วหันกลับไปทางซ้าย สลับไปมา โดยที่สายตายังคงจ้องมองภาพหรือวัตถุเดิมตลอดเวลา โดยทำติดต่อกัน 5-10 ครั้ง ให้เริ่มต้นหันศีรษะอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนไปทาง ซ้ายและขวา กลับไปกลับมาท่าฝึกชุดที่ 3 - การบริหารศีรษะและสายตา ด้วยการมองภาพเคลื่อนที่
ท่าที่ 3.1 ให้ผู้ฝึกถือรูปภาพหรือสิ่งของไว้ข้างหน้า ให้ห่างจากตาประมาณ 1 ช่วงแขนท่าที่ 3.2 ให้ผู้ฝึกเคลื่อนรูปภาพจากซ้ายไปขวา ในขณะเดียวกันหันศีรษะจากขวาไปซ้ายสลับกัน โดยที่ตายังจ้องมองรูปภาพตลอดเวลา ทำติดต่อกันอย่างน้อย 5-10 ครั้ง ทำช้าๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วในการหันศีรษะ
ท่าที่ 3.3 ให้ผู้ฝึกเคลื่อนรูปภาพขึ้นลง ในขณะที่ศีรษะก้มลงและเงยขึ้นสลับกับทิศทางการเคลื่อนที่ของภาพ โดยที่ตายังจ้องมองรูปภาพตลอดเวลา ดูภาพประกอบจะเข้าใจมากขึ้น ทำติดต่อกันอย่างน้อย 5-10 ครั้ง ทำช้าๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วในการทำ
ท่าฝึกชุดที่ 4 - การบริหารการทรงตัว - ท่ายืน
ท่าที่ 4.1 ให้ผู้ฝึกยืน กอดอก ตัวตรง เท้าชิดท่าที่ 4.2 ในขณะที่ผู้ฝึกยืนในท่าที่ 1 ให้ผู้ฝึกหันศีรษะจากซ้ายไปขวาสลับไปมา ทำติดต่อกันอย่างน้อย 5-10 ครั้ง ค่อยๆ ทำช้าๆ แล้วเพิ่มความเร็วขึ้นตามลำดับ
ท่าที่ 4.3 ในขณะที่ผู้ฝึกยืนในท่าที่ 1 ให้ผู้ฝึกก้มเงยศีรษะขึ้นลง ทำติดต่อกันอย่างน้อย 5-10 ครั้ง ค่อยๆ ทำช้าๆ แล้วเพิ่มความเร็วขึ้นตามลำดับ
ทาฝึกชุดที่ 5 - การบริหารการทรงตัว และ ท่าเดิน
การฝึกชุดนี้จะเป็นการปรับสภาพร่างกายให้มีการทรงตัว และการเดินดีขึ้นท่าที่ 5.1 ท่านี้จะเริ่มด้วยการเดินต่อเท้า โดยให้ส้นเท้าชิดปลายเท้าหลัง ต่อเป็นเส้นตรง
ท่าที่ 5.2 เมื่อผู้ฝึกสามารถเดินทำตามท่าที่ 5.1 ได้ดีแล้ว ขั้นต่อไป ให้ผู้ฝึกทำด้วยการหลับตาเดินต่อเท้า ควรมีญาติหรือบุคคลอื่นอยู่ใกล้ๆ เพื่อคอยระวังอุบัติเหตุทีอาจเกิดขึ้นได้จากการล้ม
หลังจากฝึกกายบริหาร จนอาการใกล้เป็นปกติ ขั้นตอนต่อไปผู้ฝึกควรหากิจกรรมหรือเลือกเล่นกีฬาที่ช่วยบำบัดอาการวิงเวียนศีรษะ ได้แก่ เทนนิส แบดมินตัน ปิงปอง กอล์ฟ หรือกีฬาอื่นที่ต้องอาศัยการเคลื่อนไหวศีรษะและลำตัว เพราะจะช่วยให้ร่างกายมีการปรับตัวของระบบการทรงตัวได้ดีขึ้นสุดท้ายนี้หากมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน และเสียการทรงตัว ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อจะได้ทราบสาเหตุและบำบัดโรคได้ถูกต้อง โชคดี มีสุข สนุกสนานกับการออกกำลังกายนะครับ http://thaihealthnews.blogspot.com/
Ref: เอกสารประกอบการเขียนบทความ แผ่นพับจากโรงพยาบาลสินแพทย์
0 comments:
Post a Comment