แอบ งีบ ตอนพักเที่ยงเพิ่มพลัง

แอบ งีบ ตอนพักเที่ยงเพิ่มพลัง ทุกวันนี้ ในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบหาเช้ากินค่ำของคนทำงานส่วนใหญ่ ทำให้หลายๆคนไม่มีเวลาพักผ่อนนอนหลับอย่างเต็มที่
จากการวิจัยพบว่าการนอนหลับในตอนพักเที่ยงวันละ 10-20 นาที สามารถช่วยให้ร่างกายสดชื่น สมองโล่งปลอดโปร่งมีความคิดแจ่มใส มีพลังทำงานต่อในช่วงบ่ายได้เป็นอย่างดี โดยนักวิจัยพบว่าผู้เข้าร่วมการทดสอบสามารถจดจำสิ่งต่างๆได้ดีกว่ากลุ่มที่ ไม่ได้งีบหลับ รวมทั้งการงีบหลับในตอนกลางวัน 10-20นาทีกลับไม่มีผลกระทบต่อการนอนในตอนกลางคืนของพวกเขาอีกด้วย แต่กลับทำให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย แต่ยังไงก็ตามถ้าใครจะลองหลับตอนพักเที่ยง อย่าเผลอหลับยาวเลยเวลาทำงานหานาฬิกามาปลุกด้วยนะครับ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากhttp://www.sleepeducation.com/ เตือนว่า การงีบหลับนี้อาจไม่เหมาะกับทุกคนเสมอไป โดยเฉพาะกับคนที่เป็นโรคนอนไม่หลับ การงีบระหว่างวันอาจส่งผลร้ายต่อวงจรการนอนหลับมากกว่าผลดี ซึ่งผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับจะมีปัญหากับการงีบยากกว่าคนปกติทั่วๆไปอยู่แล้ว ดังนั้นการงีบหลับเป็นเวลานาน และบ่อยเกินไป ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ร่างกายมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับแบบอื่น รวมถึง "ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ" ที่อาจเป็นอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอกจากการงีบหลับช่วงสั้นๆแล้ว การพักผ่อนด้วยการนั่งนิ่งๆ หรือเอนตัวผ่อนคลายในสมาธิช่วงสั้นๆ 5-10 นาที ในระหว่างวัน ก็ช่วยได้เหมือนกัน ลองดูครับไม่ลองไม่รู้
ข้อมูลจาก : http://thai-healthy.blogspot.com/

สาเหตุและการหลีกเลี่ยงอาการปวดหลังปวดเอว

อาการปวดหลังปวดเอว

คนส่วนใหญ่เมื่ออายุมากขึ้นต่างก็เคยปวดหลังปวดเอวกันมาแล้วทั้งนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นกันอยู่ไม่นานซักพักก็หาย แต่ถ้าเป็นกันบ่อยๆแสดงว่าต้องมีอะไรผิดปกติแล้ว วันนี้เรามาดูกันว่า  อะไคือสาเหตุและการหลีกเลี่ยงอาการปวดหลัง ปวดเอวกัน

อะไรคือสาเหตุของการปวดเอว

- ส่วนใหญ่จะเกิดจากการยกของไม่ถูกวิธี และยกเป็นเวลานานๆ อย่างเช่นคุณแม่ที่ต้องอุ้มลูกและต้องทำอย่างอื่นไปด้วย หรือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ (โดยเฉพาะคุณแม่ที่ใกล้คลอด) จะมีอาการปวดเอวให้เห็นค่อนข้างบ่อย
- การยืน การนั่ง ไม่ถูกหลักกายภาพ
- น้ำหนักตัวมากเกินไป
- การบาดเจ็บตามร่างกาย เช่นกล้ามเนื้อ , เส้นเอ็น ที่มีผลเกี่ยวเนื่องกับกระดูกสันหลังและการทรงตัว จนทำให้เกิดอาการเกร็ง
- หมอนกระดูกสันหลังเสื่อม ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดที่ลุกลามไปถึงขา และ เท้า จนทำให้เกิดอาการชาบริเวณขา หรือเกิดปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี
- ความผิดปกติของร่างกาย ตั้งแต่กำเนิด
- เนื้องอกในกระดูกสันหลัง

การแก้ไขและการหลีกเลี่ยง

สาระน่ารู้ - อาการหัวใจขาดเลือด

สาระน่ารู้ - อาการหัวใจขาดเลือด

อาการหัวใจขาดเลือด หรือ แอนจีน่า (Angina) เป็นอาการที่ส่อให้เห็นว่าหัวใจของคุณกำลังมีปํญหาความเจ็บปวด ความกดดัน หรือแม้แต่ความรู้สึกอึดอัดในหน้าอก เหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่าหัวใจของคุณได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ

Thanks image from internet

 ลักษณะอาการ

แอนจีน่า เป้นอาการ บีบแน่นของหน้าอก รู้สึกหนักๆในหน้าอก หรือ รู้สึกแน่น ,อึดอัด หริอ เสียวบริเวณหน้าอกโดยบางครั้งอาจรู้สึกเจ็บปวด อึดอัด บริเวณคอ แขน โดยเฉพาะข้างซ้าย ขากรรไกร ฟันตอนล่าง แผ่นหลัง หรือบริเวณช่องท้องตอนบน บางคนอาจเกิดอาการหายใจไม่ออกคลื่นเหียน หรือ ตาลายร่วมกัน กับอาการเจ็บหน้าอก ถ้ามีอาการดังกล่าวไม่นานเกิน 1 นาที ไม่ถือว่าเป็นหัวใจขาดเลือด

Thanks image from internet

 สาเหตุของอาการหัวใจขาดเลือด

แอนจีน่าจะเกิดขึ้นต่อเมื่อหลอดเลือดที่นำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์กล้ามเนื้อของหัวใจแคบลง ทำให้ปริมาณออกซิเจนไม่เพียงพอจนทำให้หัวใจเกิดการเกร็งตัว ภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อออกแรงมากๆ หรือทำกิจกรรมที่ทำให้หัวใจต้องการออกซิเจนในปริมาณที่มากขึ้น เช่น การเดินขึ้นบันได การยกของหนักๆ แต่บางครั้งอาจเกิดขึ้นในช่วงหลังจากรับประทานอาหาร หรือเกิดอาการ ตื่นเต้น โกรธ หรือ รู้สึกกดดัน โดยส่วนใหญ่ภาวะหัวใจขาดเลือด หรือ อาการแอนจีน่า มักเกิดขึ้น 3-5 นาทีแล้วหายไปหลังจากร่างกายได้รับการพักผ่อน อาการแอนจีน่าอาจเกิดขึ้นได้หลายครั้ง ภายในระยะเวลาสั้นๆ

สาระควรรู้กับยาปฏิชีวนะ

สาระควรรู้กับยาปฏิชีวนะ

ยาปฏิชีวนะ หรือ สารปฏิชีวนะเป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันอย่างกว้างขวาง เนื่องจาก มันมีคุณสมบัติในการปราบปรามหรือหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ายาปฏิชีวนะนี้เป็นยาครอบจักรวาล ที่สามารถรักษาโรคได้ทุกชนิด

ขอบคุณรูปประกอบจาก http://health-update-foryou.blogspot.com/2013/06/blog-post_464.html

 ทำไมยาปฏิชีวนะจึงไม่รักษาโรคได้ทุกชนิด 

ในขณะที่ยาปฏิชีวนะสามารถกำจัดเชื้อโรคจาก แบคทีเรียส่วนใหญ่ได้ แต่ก็ยังมีเชื้อโรคบางประเภทที่มันไม่สามารถปราบได้ เจ้าเชื้อโรคที่ว่านี้ก็คือเชื้อโรคจาก เชื้อไวรัส ซึ่งอธิบายให้เราเข้าใจได้ว่าทำไมโรคบางโรค เช่น คออักเสบ โรคเยื่อกระเพาะอักเสบ นิวมอเนีย สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ แต่โรคบางอย่างเช่น ไข้หวัด อีสุกอีไส เริม ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส กลับรักษาไม่ได้

Blog ใหม่ ชีวิตใหม่

Blog ใหม่ ชีวิตใหม่ 

ก่อนเข้าสาระของ Blog ขอบ่นก่อน 555
หลังจาก Blog http://thai-healthy.blogspot.com/ โดนลบไป แบบ งงๆ เมื่อ 3ธค.2557 โดย Bot โคคตรอัจฉริยะของ google ด้วยข้อหา Your blog was marked as spam by our automated classification system ซึ่งข้อคืนไปตั้งแต่เดือน ธค. 2556 ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้คืนเมื่อไร เพราะต้องรอคนจริงๆมาตรวจ ถึงจะได้คืน เนื่องจากเนื้อหาเป็นไทย และไม่รู้คนไทยที่ทำหน้าที่นี้ใน google มีกี่คน
กดขอคืนไปหลายทีแล้ว ก็เงียบ ไม่รู้จะทำไงดี รอไปก็เท่านั้นทำ blog ใหม่ดีกว่า
ขอบคุณ Bogger buzz ที่ยังเหลือร่องรอย  Blog ให้ดูต่างหน้า  เสียดายก็แต่เนื้อหาไม่ได้ backup ไว้ เนื้อหา Blog แบบนี้  หน้าตาแบบนี้ spam ตรงไหน ?

หลังจากบ่นพอละ Blog นี้ก็คงเนื้อหาไม่ต่างจาก blog ที่โดนลบไปเท่าไร จะต่างตรงที่คงต้องต้องเก็บข้อมูลไว้บ้างกันเหนียว